[Android Dev] การติดตั้ง Eclipse+AndroidSDK เพื่อพัฒนาโปรแกรมบน Android
สุดท้ายก็ต้องมาเขียนจนได้ ฮาฮา...
ถือว่าเขียนเก็บไว้ให้ตัวเองในอนาคตด้วย เผื่อต้องลง Mac ใหม่ ฮาฮา
ถ้าใครต้องการเขียน Android โดยเฉพาะ มีวิธีสบายๆ กว่านั้น
ตอนนี้ Google จัดทำ Developer Tools Bundle มาให้แล้วนะครับ
อ่านได้ที่นี่เลย --> http://www.macbaszii.com/2012/11/android-dev-android-developer-tools.html
จะเขียนแบบ Step by Step นะครับ
Step 1 :: Download and Install Eclipse Editor
http://www.eclipse.org/downloads/
ผมแนะนำให้คนที่ใช้ Indigo อยู่เปลี่ยนไปใช้ Juno นะครับ
เข้าที่นี่นะครับ แล้วโหลด Eclipse IDE for Java Developers
เลือกระบบปฏิบัติการของตัวเองที่ด้านขวาบนด้วยนะครับ 32 หรือ 64 bit ก็แล้วแต่ระบบของคุณ
แล้วก็ทำการติดตั้งลงบนเครื่องให้เรียบร้อย
การติดตั้งที่ผมว่าเนี่ย รู้สึกว่าแค่แตกไฟล์ไปที่ C:/ ก็พอแล้วล่ะครับ (สำหรับ Windows)
ส่วนฝั่ง Mac เอาไปไว้ตรงไหนก็ได้ครับ
Step 2 :: Download and Install Android SDK
ให้กดเข้ามาที่ --> http://developer.android.com/sdk/index.html
จากนั้นก็เลือกตาม Platfrom เลยครับ ถ้า Windows ก็โหลดตัวที่มัน Recommended นะครับ
**ถ้าเป็น Mac จะได้ Zip File มานะครับ... ให้ทำการแตกไฟล์ไว้ที่ไหนสักแห่งนึง ให้เป็นที่เป็นทางหน่อยครับ ที่ที่จำได้น่ะ อย่างผมก็โยนไว้ใน Document นี่แหละ
**ถ้าเป็น Windows เลือกอันล่าง (ที่เขาแนะนำ) ก็จะได้ไฟล์ที่เป็น .exe มา ก็ทำการลงไว้ในที่ที่จะเข้าถึงได้ง่าย เช่นเดียวกัน
เมื่อลงทั้ง Eclipse และ Android SDK เสร็จแล้วจะเข้าสู่ Step 3
Step 3 :: Install ADT Plug-in
ทำการเปิดโปรแกรม Eclipse ขึ้นมานะครับ...
ให้ทำการเลือก Menu Help --> Install New Software
จะได้หน้าต่างนี้นะครับ ให้กดที่ Add ทางด้านขวา แล้วขะขึ้น Dialog แบบนี้ครับ
- Name :: ADT Plug-in
- Location :: https://dl-ssl.google.com/android/eclipse/
(ถ้าไม่ได้ลองเปลี่ยนเป็น http)
- กด ok
- รอมันค้นหา เมื่อหาเจอมันจะขึ้น Delevoper Tools ให้ทำการติ๊กถูกข้างหน้าแล้วกด Next
- มันจะขึ้นว่า จะลงอะไรให้เราบ้าง กด Next อีกครั้ง
- แล้วมันจะให้เรา ยืนยันเกี่ยวกับข้อตกลง ให้เลือกที่ I acccept ..... จากนั้นกด Finish เป็นอันเสร็จ
- จากนี้จะมีการโหลดตัว ADT Plug-in เข้ามา ใ้หรอไปเรื่อย ๆ จนเสร็จ
- โหลดเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าต่างให้กด Restart Eclipse
**ตัวโปรแกรม Eclipse จะถูกปิดอัตโนมัติให้เปิดขึ้นมาใหม่ หรือ !! ถ้าไม่ถูกปิด ก็ปิดแล้วเปิดขึ้นมาใหม่
Step 4 :: Adding Platfroms and Other Components
หา Menu ที่มี Android SDK Manager ครับ ใน Eclipse for Mac จะอยู่ใน Window
จะได้หน้าต่าง Android SDK Manager ดังรูป
ก็เลือกเลยครับ ว่าเราจะลงอะไรบ้าง ?
สำหรับนักศึกษาที่ต้องการจะลองเขียน Android ก็ลงเฉพาะเวอร์ชั่นล่าสุดที่เป็น 4.x ก็พอครับ ...
แต่ถ้านักพัฒนา หรือคนที่สนใจ อาจจะต้องลงเวอร์ชั่นเก่าๆ เพื่อรองรับมือถือรุ่นเก่าๆ ด้วยนะครับ
เพราะมือถือบางรุ่นก็ไม่รองรับการอัพเดทเป็น 4.x
ทั้งนี้เพราะเวลาทดสอบโปรแกรมลงเครื่องเนี่ย... เราจะเขียนโปรแกรมบนเวอร์ชั่นเดียวกับเครื่องนะครับ
ให้เลือก Accept All แล้วกด Install เลยครับ ^^
โปรแกรมก็ทำการ Download และ Install ให้เรา ดังภาพ
Step 5 :: Configuring The ADT Plug-in
- เมื่อเข้าโปรแกรม Eclipse อีกครั้ง ให้เราเลือกเมนู
Window --> Preferences (Windows)
Eclipse --> Preferences (Mac OS X)
- ให้เราเลือก Android จะได้แบบนี้
- ในช่อง SDK Location นั้นให้เรากดที่ Browse แล้วให้เราเลือก Folder ที่เราลง Android SDK ไว้
ที่ในตอนแรกผมบอกให้ หาที่ที่มันเข้าถึงง่าย ๆ จำได้ไหมครับ ?? (Step 2 :: Install Android SDK)
- จากนั้นกด Apply แล้ว Ok ตามระเบียบ ^^
Step 6 :: Set up Android Emulator
แน่นอนบางคนอาจจะไม่มีเครื่องจริงทดสอบ... ฉะนั้นเราจะลง ตัวจำลอง Android Phone เพื่อทดสอบ
โปรแกรมที่เราเขียนขึ้นมากันนะครับ
- ในโปรแกรม Eclipse เลือก Window --> AVD Manager
- กดที่ New จะได้หน้าต่าง Create New AVD
**Windows Only --> ให้เลือกช่อง Built-in เป็น HVGA ด้วย...
สำหรับบางคนที่จะทดสอบอะไรพิเศษเพิ่มเติมสามารถที่จะ Custom Emulator ของเราได้นะครับ
ในส่วนของ Hardware เราสามารถกด New เพื่อเพิ่ม Device Ram Size หรืออื่นๆ ได้นะครับ
ผมก็จำได้ไม่หมดแหะ ลองเล่นๆ ดูครับ เผื่อจะมีอะไรที่คุณต้องการ
จากนั้นคลิก Create AVD เป็นอันเรียบร้อยครับ ^^
** ถ้าใครต้องการทดสอบหลายเวอร์ชั่นก็ต้อง Create AVD ไว้หลายๆ ตัวนะครับ
อย่างที่บอกว่า เขียนโปรแกรมบนเวอร์ชั่นไหน ก็ต้องใช้มือถือเวอร์ชั่นนั้น
ในเชิงของ AVD (Android Virtual Device) ก็เช่นกันครับ
ตัวอย่างของผมที่สร้างไว้นะครับ
จบแล้วนะครับ ไม่เข้าใจหรือติดตรงไหน Comment ถามได้นะ ถ้าทำตามขั้นตอนไม่มีปัญหาแน่นอน ^^
Credit :: http://developer.android.com/sdk/installing.html
จากนั้นให้ทดสอบการเขียนโปรแกรมด้วยโปรแกรมนี้นะครับ ^^
http://macbaszii.blogspot.com/2011/01/begin-with-android.html
http://macbaszii.blogspot.com/2011/01/android-clicked-part-java-coding.html
แล้วลอง Run ดูนะครับ...
คิดว่าเกือบทุกเครื่อง (Windows only) ว่าน่าจะเกิดปัญหานี้...
พอรันแล้วจะขึ้นหน้าต่าง Dialog พร้อมคำว่า
Your project contain error,pls. fix them before running your application
ถือว่าเขียนเก็บไว้ให้ตัวเองในอนาคตด้วย เผื่อต้องลง Mac ใหม่ ฮาฮา
ถ้าใครต้องการเขียน Android โดยเฉพาะ มีวิธีสบายๆ กว่านั้น
ตอนนี้ Google จัดทำ Developer Tools Bundle มาให้แล้วนะครับ
อ่านได้ที่นี่เลย --> http://www.macbaszii.com/2012/11/android-dev-android-developer-tools.html
จะเขียนแบบ Step by Step นะครับ
http://www.eclipse.org/downloads/
ผมแนะนำให้คนที่ใช้ Indigo อยู่เปลี่ยนไปใช้ Juno นะครับ
ซึ่งตอนนี้ในหน้า Download Page ที่ผมให้ไว้มัน Default ไว้เป็น Eclipse Juno 4.2 แล้วล่ะครับ
เลือกระบบปฏิบัติการของตัวเองที่ด้านขวาบนด้วยนะครับ 32 หรือ 64 bit ก็แล้วแต่ระบบของคุณ
แล้วก็ทำการติดตั้งลงบนเครื่องให้เรียบร้อย
การติดตั้งที่ผมว่าเนี่ย รู้สึกว่าแค่แตกไฟล์ไปที่ C:/ ก็พอแล้วล่ะครับ (สำหรับ Windows)
ส่วนฝั่ง Mac เอาไปไว้ตรงไหนก็ได้ครับ
Step 2 :: Download and Install Android SDK
ให้กดเข้ามาที่ --> http://developer.android.com/sdk/index.html
จากนั้นก็เลือกตาม Platfrom เลยครับ ถ้า Windows ก็โหลดตัวที่มัน Recommended นะครับ
**ถ้าเป็น Mac จะได้ Zip File มานะครับ... ให้ทำการแตกไฟล์ไว้ที่ไหนสักแห่งนึง ให้เป็นที่เป็นทางหน่อยครับ ที่ที่จำได้น่ะ อย่างผมก็โยนไว้ใน Document นี่แหละ
**ถ้าเป็น Windows เลือกอันล่าง (ที่เขาแนะนำ) ก็จะได้ไฟล์ที่เป็น .exe มา ก็ทำการลงไว้ในที่ที่จะเข้าถึงได้ง่าย เช่นเดียวกัน
เมื่อลงทั้ง Eclipse และ Android SDK เสร็จแล้วจะเข้าสู่ Step 3
Step 3 :: Install ADT Plug-in
ทำการเปิดโปรแกรม Eclipse ขึ้นมานะครับ...
จะได้หน้าต่างนี้นะครับ ให้กดที่ Add ทางด้านขวา แล้วขะขึ้น Dialog แบบนี้ครับ
- Name :: ADT Plug-in
- Location :: https://dl-ssl.google.com/android/eclipse/
(ถ้าไม่ได้ลองเปลี่ยนเป็น http)
- กด ok
- รอมันค้นหา เมื่อหาเจอมันจะขึ้น Delevoper Tools ให้ทำการติ๊กถูกข้างหน้าแล้วกด Next
- มันจะขึ้นว่า จะลงอะไรให้เราบ้าง กด Next อีกครั้ง
- แล้วมันจะให้เรา ยืนยันเกี่ยวกับข้อตกลง ให้เลือกที่ I acccept ..... จากนั้นกด Finish เป็นอันเสร็จ
- จากนี้จะมีการโหลดตัว ADT Plug-in เข้ามา ใ้หรอไปเรื่อย ๆ จนเสร็จ
- โหลดเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าต่างให้กด Restart Eclipse
**ตัวโปรแกรม Eclipse จะถูกปิดอัตโนมัติให้เปิดขึ้นมาใหม่ หรือ !! ถ้าไม่ถูกปิด ก็ปิดแล้วเปิดขึ้นมาใหม่
Step 4 :: Adding Platfroms and Other Components
หา Menu ที่มี Android SDK Manager ครับ ใน Eclipse for Mac จะอยู่ใน Window
สำหรับนักศึกษาที่ต้องการจะลองเขียน Android ก็ลงเฉพาะเวอร์ชั่นล่าสุดที่เป็น 4.x ก็พอครับ ...
แต่ถ้านักพัฒนา หรือคนที่สนใจ อาจจะต้องลงเวอร์ชั่นเก่าๆ เพื่อรองรับมือถือรุ่นเก่าๆ ด้วยนะครับ
เพราะมือถือบางรุ่นก็ไม่รองรับการอัพเดทเป็น 4.x
ทั้งนี้เพราะเวลาทดสอบโปรแกรมลงเครื่องเนี่ย... เราจะเขียนโปรแกรมบนเวอร์ชั่นเดียวกับเครื่องนะครับ
ให้เลือก Accept All แล้วกด Install เลยครับ ^^
โปรแกรมก็ทำการ Download และ Install ให้เรา ดังภาพ
Step 5 :: Configuring The ADT Plug-in
- เมื่อเข้าโปรแกรม Eclipse อีกครั้ง ให้เราเลือกเมนู
Window --> Preferences (Windows)
Eclipse --> Preferences (Mac OS X)
- ให้เราเลือก Android จะได้แบบนี้
- ในช่อง SDK Location นั้นให้เรากดที่ Browse แล้วให้เราเลือก Folder ที่เราลง Android SDK ไว้
ที่ในตอนแรกผมบอกให้ หาที่ที่มันเข้าถึงง่าย ๆ จำได้ไหมครับ ?? (Step 2 :: Install Android SDK)
- จากนั้นกด Apply แล้ว Ok ตามระเบียบ ^^
Step 6 :: Set up Android Emulator
แน่นอนบางคนอาจจะไม่มีเครื่องจริงทดสอบ... ฉะนั้นเราจะลง ตัวจำลอง Android Phone เพื่อทดสอบ
โปรแกรมที่เราเขียนขึ้นมากันนะครับ
- ในโปรแกรม Eclipse เลือก Window --> AVD Manager
- กดที่ New จะได้หน้าต่าง Create New AVD
**Windows Only --> ให้เลือกช่อง Built-in เป็น HVGA ด้วย...
สำหรับบางคนที่จะทดสอบอะไรพิเศษเพิ่มเติมสามารถที่จะ Custom Emulator ของเราได้นะครับ
ในส่วนของ Hardware เราสามารถกด New เพื่อเพิ่ม Device Ram Size หรืออื่นๆ ได้นะครับ
ผมก็จำได้ไม่หมดแหะ ลองเล่นๆ ดูครับ เผื่อจะมีอะไรที่คุณต้องการ
จากนั้นคลิก Create AVD เป็นอันเรียบร้อยครับ ^^
** ถ้าใครต้องการทดสอบหลายเวอร์ชั่นก็ต้อง Create AVD ไว้หลายๆ ตัวนะครับ
อย่างที่บอกว่า เขียนโปรแกรมบนเวอร์ชั่นไหน ก็ต้องใช้มือถือเวอร์ชั่นนั้น
ในเชิงของ AVD (Android Virtual Device) ก็เช่นกันครับ
ตัวอย่างของผมที่สร้างไว้นะครับ
จบแล้วนะครับ ไม่เข้าใจหรือติดตรงไหน Comment ถามได้นะ ถ้าทำตามขั้นตอนไม่มีปัญหาแน่นอน ^^
Credit :: http://developer.android.com/sdk/installing.html
จากนั้นให้ทดสอบการเขียนโปรแกรมด้วยโปรแกรมนี้นะครับ ^^
Begin with Android (Part :: User Interface)
http://macbaszii.blogspot.com/2011/01/begin-with-android.html
Begin With Android (Part II :: Java Coding)
http://macbaszii.blogspot.com/2011/01/android-clicked-part-java-coding.html
แล้วลอง Run ดูนะครับ...
คิดว่าเกือบทุกเครื่อง (Windows only) ว่าน่าจะเกิดปัญหานี้...
พอรันแล้วจะขึ้นหน้าต่าง Dialog พร้อมคำว่า
Your project contain error,pls. fix them before running your application
แก้ Error "generating final archive: Debug certificate expired on dd/mm/yyyy "
http://www.mobiledevguru.com/Article/tabid/66/articleType/ArticleView/articleId/37/-Error-generating-final-archive-Debug-certificate-expired-on-ddmmyyyy-.aspx
ก็แก้กันไปตามระเบียบนะครับ ^^
Tips :: Auto Complete Keys
ในการเขียน Android Development นั้น (หรือการเขียนโปรแกรมบน Platform อื่น ๆ)
มีคำสั่งเยอะแยะมากมาย... แน่นอน... เราไม่สามารถที่จะรู้ได้ หรือหาอ่านได้ทั้งหมด...
ผมจะมาสอนการ Set ปุ่มให้ง่ายเพื่อการใช้งานนะ ^^
ในโปรแกรม Eclipse --> Window --> Preferences (Mac == Eclipse --> Preferences)
จากนั้นแถบด้านข้างให้เปิด General ออกมา แล้วเลือกไปที่ Keys จะได้
คลิกที่ Blinding ครั้งนึงนะครับ เพื่อให้มันเรียงลำดับตาม Shortcut Keys
จากนั้นหาคำสั่งที่ชื่อว่า
ซึ่ง Default Blinding ของคำสั่งนี้คือ ctrl+space ครับซึ่งสำหรับบาสแล้วมันกดลำบาก
(ผมอาจจะชินจาก iOS มาก็ได้)
ให้ทำการเปลี่ยน Blinding ตามใจชอบเลยครับ สำหรับบาสก็ Esc นี่แหละครับ ถนัดสุด
หลังจากนั้นกด Apply แล้ว OK เลยครับ ^^
วิธีการใช้ก็ประมาณนี้นะครับ...
ให้เราพิมพ์สิ่งที่เราต้องการซะหน่อย ในตัวอย่างบาสอยากรู้ว่าใน Class Color เนี่ย มันมีสีอะไรให้ใช้บ้าง
ก็พิมพ์ Color. แล้วกด Esc (Blinding ที่คุณตั้งไว้)
แค่นี้ Method ใน Class ก็จะแสดงออกมาให้ทั้งหมดเลยครับ ^^
** ในส่วนของการวาด Interface ด้วย XML ก็ทำได้เช่นเดียวกันนะครับ...
และจำไว้ว่า ... จำไม่ได้ ลืม... ไม่รู้ พิมพ์อะไรนิดนึงแล้วกด Esc จากนั้นก็เลือก ๆ เอา อิอิ
ขอจบ Blog เท่านี้แหละครับ.....
ก็แก้กันไปตามระเบียบนะครับ ^^
Tips :: Auto Complete Keys
ในการเขียน Android Development นั้น (หรือการเขียนโปรแกรมบน Platform อื่น ๆ)
มีคำสั่งเยอะแยะมากมาย... แน่นอน... เราไม่สามารถที่จะรู้ได้ หรือหาอ่านได้ทั้งหมด...
ผมจะมาสอนการ Set ปุ่มให้ง่ายเพื่อการใช้งานนะ ^^
ในโปรแกรม Eclipse --> Window --> Preferences (Mac == Eclipse --> Preferences)
จากนั้นแถบด้านข้างให้เปิด General ออกมา แล้วเลือกไปที่ Keys จะได้
คลิกที่ Blinding ครั้งนึงนะครับ เพื่อให้มันเรียงลำดับตาม Shortcut Keys
จากนั้นหาคำสั่งที่ชื่อว่า
(ผมอาจจะชินจาก iOS มาก็ได้)
หลังจากนั้นกด Apply แล้ว OK เลยครับ ^^
วิธีการใช้ก็ประมาณนี้นะครับ...
ให้เราพิมพ์สิ่งที่เราต้องการซะหน่อย ในตัวอย่างบาสอยากรู้ว่าใน Class Color เนี่ย มันมีสีอะไรให้ใช้บ้าง
ก็พิมพ์ Color. แล้วกด Esc (Blinding ที่คุณตั้งไว้)
แค่นี้ Method ใน Class ก็จะแสดงออกมาให้ทั้งหมดเลยครับ ^^
** ในส่วนของการวาด Interface ด้วย XML ก็ทำได้เช่นเดียวกันนะครับ...
และจำไว้ว่า ... จำไม่ได้ ลืม... ไม่รู้ พิมพ์อะไรนิดนึงแล้วกด Esc จากนั้นก็เลือก ๆ เอา อิอิ
ผมใช้ Mac ในการเขียน Tutorial อันนี้ ถ้าใครถนัดและเล่น Windows
ผมแนะนำ Link นี้ครับ น้องในคณะผมเขียนขึ้น ก็เข้าใจง่ายดีครับ http://wadkung.wordpress.com/2012/02/02/how-to-install-android-sdk/
ขอจบ Blog เท่านี้แหละครับ.....
ขอบคุณครับ ผมไปดูของคนอื่นงงมาก พอมาดูอันนี้เเล้วรู้สึกง่ายมาก ได้เรื่องยังไงขอมาตอบทีหลังนะครับ
ReplyDeleteขอบคุณครับ
ReplyDeleteทำตามแล้ว พอจะเปิด emulator มันบอกว่า
PANIC: Could not open: C:\Documents and Settings\Administrator\.android/avd/adv2.1.ini
เลยไปต่อไม่ได้ ไม่ทราบว่าจะแก้ไขอย่างไรครับ
แนะนำให้ลอง ลบแล้วทำการ Create Emulator ตัวใหม่ครับ
ReplyDeleteผมไม่เคยเจอปัญหานี้เหมือนกันอ่าครับ ~ เลยไม่แน่ใจ
ไม่แน่ใจว่า คุณ Anonymous แก้ PANIC: Could not open: C:C:\Documents and Settings\Administrator\.android/avd/adv2.1.ini ได้รึยัง
ReplyDeleteถ้ายังแนะนำ link นี้ครับ ผมลองแล้วใช้ได้ครับ
http://stackoverflow.com/questions/6641498/android-emulator-cant-start-cause-of-wrong-folder
ขอบคุณครับ ลองใช้ Indigo แบบขจกท บ้างดีกว่า เผื่อปัญหาจะน้อยๆลงบ้าง หุหุ
ReplyDeleteพิมพ์ผิดอีกตู จะพิมจขกท ดันเปน ขจกท. แต่ผิดทั้งคู่ ต้องพิมพ์ว่า ขอบคุณเจ้าของBlog ครับ
ReplyDelete